ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้าง ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถใ

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้าง

ความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหา

ความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2

ผู้วิจัย นางสมจิตร มุณีศรี ตำแหน่งครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

โรงเรียนบ้านท่าไทร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 3 จังหวัดสงขลา

ปีที่วิจัย พ.ศ. 2558

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถ

ในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และความสามารถในการแสวงหาความรู้ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ เพื่อประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัย กลุ่มตัวอย่างเป็นเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล ปีที่ 2 จำนวน 20 คน โรงเรียนบ้านท่าไทร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 3 จังหวัดสงขลา ระยะเวลาการจัดประสบการณ์ 6 สัปดาห์ เครื่องมือการวิจัย ประกอบด้วยเครื่องมือการจัดประสบการณ์ คือ รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัย เครื่องมือการประเมิน คือ 1) เครื่องมือประเมินครูปฐมวัย ได้แก่ แบบประเมินความรู้ความเข้าใจของครูปฐมวัยเกี่ยวกับรูปแบบการจัดประสบการณ์ แบบประเมินความสามารถ ในการเขียนแผนการจัดประสบการณ์ และแบบประเมินความสามารถในการจัดประสบการณ์ ของครูปฐมวัยตามรูปแบบการจัดประสบการณ์และแบบประเมินความคิดเห็นของครูปฐมวัย ที่มีต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์ และ 2) เครื่องมือประเมินเด็กปฐมวัย ได้แก่ แบบทดสอบความสามารถในการคิดแก้ปัญหา แบบสังเกตพฤติกรรมความสามารถในการแสวงหาความรู้ และแบบประเมินความพึงพอใจของเด็กปฐมวัย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test) และข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานได้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ประกอบ 4 ขั้นตอน ดังนี้

1.1 ขั้นจุดประกายแนวคิด (Stimulation) เป็นขั้นที่เด็กได้รับการกระตุ้นให้สนใจ ด้วย

สื่อที่เป็นของจริง ภาพ นิทานที่เหมาะสมกับวัย โดยให้ใช้คำถามให้คนหาคำตอบเพื่อกระตุ้นให้เด็กใช้เหตุผลและสืบค้น แสวงหาความรู้เพื่อให้ได้คำตอบนั้น

1.2 ขั้นร่วมด้วยช่วยกันคิด (Cooperation) เป็นขั้นที่ให้เด็กทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก

กลุ่มละ 4-5 คน เพื่อร่วมกันค้นหาคำตอบของกลุ่มจากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พิจารณา ข้อมูลที่ได้รับโดยใช้ประสาทสัมผัสในการสำรวจ สังเกต หรือทดลองและสรุปข้อมูล ซึ่งครูจะเข้าไปช่วยเหลือแนะน่าเมื่อเด็กเกิดปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ

1.3 ขั้นนำเสนอแนวความคิด (Presentation) เป็นขั้นที่เด็กนำเสนอผลการเรียนรู้ จากสิ่ง

ที่ค้นพบ โดยการออกมาเล่าหน้าชั้นเรียน จัดแสดงผลงานของกลุ่มบนป้ายนิเทศ หรือ มุมแสดงผลงาน แลกเปลี่ยน เรียนรู้กับเพื่อนกลุ่มอื่น

1.4 ขั้นประยุกต์แนวคิดและนำไปใช้ (Application) เป็นขั้นที่เด็กนำความรู้ที่ได้รับไปใช้

โดยครูใช้คำถาม ให้เด็กหาคำตอบจากเหตุการณ์ใหม่ที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์เดิม ซึ่งเด็กตอบได้ หลากหลายวิธี เช่น การเล่าหรือสร้างผลงานใหม่ ครูสังเกตการให้เหตุผลของเด็ก ในการนำ ความรู้หรือประสบการณ์ที่ได้รับมาใช้ในสถานการณ์ใหม่

2. รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด (มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 4.00- 4.80) และความคิดเห็นของครูปฐมวัยต่อรูปแบบการจัดประสบการณ์ที่เน้นการสืบเสาะ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีผลประเมินโดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( = 2.70, S.D. = 0.47)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความ สามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และความสามารถในการแสวงหาความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดของรูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยทำให้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้เพิ่มขึ้น

4. ผลการประเมินประสิทธิผลการใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้

4.1 เด็กปฐมวัยมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังใช้รูปแบบการจัด

ประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และความสามารถในการแสวงหาความรู้สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.2 เด็กปฐมวัยมีความสามารถในการแสวงหาความรู้หลังใช้รูปแบบการจัด

ประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถ ในการแสวงหาความรู้สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4.3 เด็กปฐมวัยมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดประสบการณ์

เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ตามรูปแบบการจัดประสบการณ์เน้นการสืบเสาะเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและความสามารถในการแสวงหาความรู้ของเด็กปฐมวัยในภาพรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย สมจิตร : [12 ต.ค. 2559 เวลา 18:54 น.]
อ่าน [3755] ไอพี : 223.206.251.57
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,258 ครั้ง
อภิชาติ หาลำเจียก
อภิชาติ หาลำเจียก

เปิดอ่าน 45,596 ครั้ง
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา
ประกาศ สพฐ.หลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการนำเงินรายได้สถานศึกษาไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในสถานศึกษา

เปิดอ่าน 11,441 ครั้ง
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ
แม่ยุคใหม่ ที่ลูกต้องการ

เปิดอ่าน 21,970 ครั้ง
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า
การแปรผลเมื่อใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลแบบมาตราส่วนประมาณค่า

เปิดอ่าน 12,529 ครั้ง
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด
ยากับน้ำผลไม้ อันตรายกว่าที่คิด

เปิดอ่าน 82,327 ครั้ง
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?
เมื่อภาษาไทยไม่มีสระไม่เว้นวรรค ดูซิว่าอ่านยากขนาดไหน?

เปิดอ่าน 20,139 ครั้ง
รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
รอบรู้เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ

เปิดอ่าน 10,080 ครั้ง
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ
การดูแลสุขภาพหน้าฝน ทำได้ง่ายๆ

เปิดอ่าน 32,147 ครั้ง
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 10,939 ครั้ง
โรคไบโพลาร์
โรคไบโพลาร์

เปิดอ่าน 8,519 ครั้ง
ตำนานสงกรานต์
ตำนานสงกรานต์

เปิดอ่าน 15,058 ครั้ง
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร
กำจัดความเครียดได้ง่าย ๆ ด้วยการกินอาหาร

เปิดอ่าน 14,540 ครั้ง
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 69,004 ครั้ง
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ
รูปแบบการรายงานผลการวิจัยแบบเป็นทางการ

เปิดอ่าน 19,365 ครั้ง
เกมส์แข่งรถ
เกมส์แข่งรถ

เปิดอ่าน 206,274 ครั้ง
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
เปิดอ่าน 15,053 ครั้ง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
เปิดอ่าน 16,838 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
เปิดอ่าน 185,788 ครั้ง
สัตว์ในป่าชายเลน
สัตว์ในป่าชายเลน
เปิดอ่าน 12,971 ครั้ง
เย็นกายเย็นใจเมื่อตั้งครรภ์
เย็นกายเย็นใจเมื่อตั้งครรภ์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ