ครูบ้านนอก

งานวิจัยเรื่อง การพัฒนาคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ โดยใช้วิธีการสอนแบบเบญจขันธ์และการ

เรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางเบ็ญจา ธนประสิทธิ์พัฒนา ปีที่วิจัย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คื (1) เพื่อศึกษาข้อมูลในการพัฒนาวิธีสอนเพื่อพัฒนา

คุณธรรมขั้นพื้นฐาน 8 ประการ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถม-ศึกษาปีที่ 1 (2) เพื่อสร้างและพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเบญจขันธ์และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ในการพัฒนาคุณธรรมขั้นพื้นฐานคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (3) เพื่อทดลองใช้วิธีการสอนแบบเบญจขันธ์และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ในการพัฒนาคุณธรรมขั้นพื้นฐาน 8 ประการ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1

(4) เพื่อประเมินความพึงพอใจและปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนแบบเบญจขันธ์และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ในการพัฒนาคุณธรรมขั้นพื้นฐานคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ วิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล1 ศรีกิตติวรรณนุสรณ์ เทศบาลเมืองพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2558 จำนวน 35คนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียนแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ E.I โดยใช้รูปแบบการทดลอง One Group pre-test post-test Design

ผลการวิจัยพบว่า พัฒนาแผนจัดการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการสอนแบบเบญจขันธ์และการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมในการพัฒนา คุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 90.04 / 93.29 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 ได้หนังสือส่งเสริมคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1เป็นหนังสืออ่านแบบบทร้อยกรอง ประกอบรูปภาพเป็นเรื่องราวที่มีตัวละครปฏิบัติตนตามคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ จำนวน 8 เล่ม ผลการศึกษาประสิทธิผลของแผนจัดการเรียนรู้พบว่า ประสิทธิผล มีค่าเท่ากับ 0 . 8 819 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าคิดเป็นร้อยละ 88.19 ผลการศึกษา ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.97 จากคะแนนเต็ม 3

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,283 ครั้ง อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ซ้ำร้าย "อ่านน้อย" จับประเด็นไม่ได้ วิกฤตใหญ่ที่ไทยต้องแก้	เปิดอ่าน 24,036 ครั้ง สิงคโปร์รณรงค์เลิกบ้าคะแนนสอบ ปรามพ่อแม่อย่ากดดันลูก	เปิดอ่าน 14,319 ครั้ง ปลา...สินสมุทร สรวงฟ้า ของเล่นใหม่ นักเลี้ยงปลาตู้
เปิดอ่าน 10,693 ครั้ง จดหมายฉบับที่ 36 ถึงนายกรัฐมนตรี+รมว.ศธ. เรื่อง ยกเลิกวิธีนำร่องในการปรับลดเวลาเรียน	เปิดอ่าน 11,808 ครั้ง รสชาติแบบไหนดีต่อสุขภาพ	เปิดอ่าน 9,452 ครั้ง [คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"
เปิดอ่าน 19,312 ครั้ง ผลจากการเปลี่ยนแปลงความกดบรรยากาศ	เปิดอ่าน 122,848 ครั้ง จำนวนเฉพาะ (Prime Number) คืออะไร?	เปิดอ่าน 16,669 ครั้ง FAQ ถาม-ตอบ สาระสำคัญพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 (7 ก.ค. 51)
เปิดอ่าน 22,412 ครั้ง คำอวยพรปีใหม่ของชาติต่างๆ	เปิดอ่าน 10,055 ครั้ง พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!	เปิดอ่าน 34,269 ครั้ง กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร
เปิดอ่าน 10,790 ครั้ง มะเร็งปากมดลูก	เปิดอ่าน 10,273 ครั้ง วิธีแต่งหน้าใส ๆ สวยสบายผิวหน้า	เปิดอ่าน 15,261 ครั้ง คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory