ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาเรื่องการจับใจความจากนิทานอีสป โดยใช้เทคนิคหมวก 6 ใบ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนัก

บทคัดย่อ

รายงานการศึกษาเรื่องการจับใจความจากนิทานอีสป โดยใช้เทคนิคหมวก 6 ใบ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลตำบลเกาะพะงัน มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ เรื่อง การอ่านจับใจความ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานอีสป โดยใช้เทคนิคหมวก 6 ใบ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียน การอ่านจับใจความ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความจากนิทานอีสป โดยใช้เทคนิคหมวก 6 ใบ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 20 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ 1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความการอ่านจับใจความจากนิทานอีสป โดยใช้เทคนิคหมวก 6 ใบ 2. แผนการจัดการเรียนรู้ 3. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4. แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t – test (Dependent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. แบบฝึกการอ่านจับใจความ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้รายงานจัดทำขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 70.45/ 74.40 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือ 70/70 2. นักเรียนชั้นประถมศึกกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความ มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 12.80 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 26.10 คะแนนเฉลี่ยความก้าวหน้าร้อยละเท่ากับ 44.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดคือต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 25 ของคะแนนเต็มและเมื่อนำคะแนนจากการทดสอบมาหาค่าดัชนีประสิทธิผลมีค่าเท่ากับ 0.77 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่น่าพอใจคือ 0.50 และนั่นแสดงว่าการเรียนจากแบบฝึกการอ่านจับใจความ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นจริง 3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านจับใจความ ในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก รายการที่นักเรียนมีความพึงพอใจสูงเป็นลำดับแรก ได้แก่ นักเรียนจับใจความสำคัญหลักจากนิทานที่อ่านได้ รองลงมาคือ นักเรียนอภิปราย เขียนสรุปข้อคิดจากนิทานได้ และจับใจความสำคัญรองจากนิทานที่อ่านได้ นักเรียนมีความพึงพอใจเป็นลำดับสุดท้ายคือ นักเรียนชอบอ่านหนังสือมากขึ้น

โดยสรุป การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในลักษณะนี้ส่งผลทำให้นักเรียนมีทักษะการอ่าน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านจับใจความเพิ่มสูงขึ้น ความพึงพอใจ ความรักในการอ่านและความรับผิดชอบ สามารถนำวิธีการอ่านไปอ่านเพิ่มเติมนอกเวลาเรียน และนักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ง่าย มีความพึงพอใจในการเรียนลักษณะนี้ นักเรียนสามารถนำไปบูรณาการกับวิชาอื่นๆได้ จึงสามารถนำมาใช้เป็นนวัตกรรมแก้ปัญหา ในการจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โพสต์โดย นัท : [14 ก.ย. 2559 เวลา 06:33 น.]
อ่าน [4898] ไอพี : 171.6.250.128
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 24,164 ครั้ง
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล
แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง สำหรับชุดประจำชาติไทยสู่เวทีสากล

เปิดอ่าน 10,537 ครั้ง
เตือนหญิงตั้งครรภ์ "ขาดไอโอดีน" ลูก เสี่ยง ไอคิวต่ำ
เตือนหญิงตั้งครรภ์ "ขาดไอโอดีน" ลูก เสี่ยง ไอคิวต่ำ

เปิดอ่าน 20,631 ครั้ง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง
เช็กสุขภาพ 12 ราศี พื้นดวงแบบนี้มีอะไรต้องระวัง

เปิดอ่าน 35,903 ครั้ง
คิดจะซื้อ "ทีวีจอแบน" ต้องรู้อะไรบ้าง ?
คิดจะซื้อ "ทีวีจอแบน" ต้องรู้อะไรบ้าง ?

เปิดอ่าน 10,872 ครั้ง
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว

เปิดอ่าน 31,188 ครั้ง
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ สอนลูกฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน
ภาษาอังกฤษ เริ่มได้ที่บ้าน กับ สอนลูกฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษกับคำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน

เปิดอ่าน 36,332 ครั้ง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงานและการประชุมระหว่างประเทศ(ฉบับที่3)2555

เปิดอ่าน 37,956 ครั้ง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง
9 สายงานไทย เทรนด์ใหม่มาแรง

เปิดอ่าน 11,493 ครั้ง
ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7
ไมโครซอฟท์ พร้อมเปิดตัว วินโดวส์ 7

เปิดอ่าน 32,150 ครั้ง
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย
มหาลัยล้น ห้องเรียนร้าง วิกฤตอุดมศึกษาไทย

เปิดอ่าน 31,185 ครั้ง
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด
ดอกคำฝอย สมุนไพรปกป้องหัวใจ ลดไขมันในเลือด

เปิดอ่าน 18,085 ครั้ง
ย้อนดูโปรแกรมแชท 22 ปีที่แล้ว จนถึงอวสาน "MSN"
ย้อนดูโปรแกรมแชท 22 ปีที่แล้ว จนถึงอวสาน "MSN"

เปิดอ่าน 29,987 ครั้ง
ดอกดาหลา
ดอกดาหลา

เปิดอ่าน 8,885 ครั้ง
สื่อเผย ดิกชันนารีฯ อาจไร้คนสนใจในอนาคต
สื่อเผย ดิกชันนารีฯ อาจไร้คนสนใจในอนาคต

เปิดอ่าน 14,197 ครั้ง
7 เรื่องผิดพลาดในการใช้เงิน ที่ทำให้คุณไม่รวยสักที
7 เรื่องผิดพลาดในการใช้เงิน ที่ทำให้คุณไม่รวยสักที

เปิดอ่าน 14,252 ครั้ง
5 นิสัยของคนประสบความสำเร็จ
5 นิสัยของคนประสบความสำเร็จ
เปิดอ่าน 9,859 ครั้ง
“ท่องเที่ยวอย่างไรให้สบายเท้า”
“ท่องเที่ยวอย่างไรให้สบายเท้า”
เปิดอ่าน 12,310 ครั้ง
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกข้าราชการครูฯ เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศึกษานิเทศก์
เปิดอ่าน 13,067 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
เปิดอ่าน 12,061 ครั้ง
เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้าน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง
เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้าน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ