ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทคัดย่อ การพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

การพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรี

ประมวล นาสมรูป1

บทคัดย่อ

การพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียน

เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี มีวัตถุประสงค์ของการศึกษา ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาการเขียน

เชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี

2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนที่เรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 201 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ห้อง 3/4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน

41 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ มี 3 ชนิด ได้แก่ 1) คู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 8 แผน 9 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย

และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษา ปรากฏดังนี้

1. ผลการประเมินคุณภาพของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพของคู่มือการใช้แผนโดยรวมในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.67

2. ผลการวิเคราะห์ คะแนนเฉลี่ยจากการตรวจใบงานหรือชิ้นงาน การสังเกตพฤติกรรม

การเรียนรู้นักเรียน และการประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม (ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1))

ของนักเรียน ทั้ง 8 แผน นักเรียน ได้คะแนนเฉลี่ยรวม 17.68 คิดเป็นร้อยละ 88.40 ประสิทธิภาพ

ของกระบวนการ (E ) เท่ากับ 88.40

3. ผลการวิเคราะห์ คะแนนเฉลี่ย และร้อยละของคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน(ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2)) คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียน คะแนนเต็ม 20 คะแนน ได้ค่าเฉลี่ย 17.05 คิดเป็นร้อยละ 85.25 แสดงว่า ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 85.25 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน

สูงกว่าก่อนเรียน

4. สรุปประสิทธิภาพของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า คู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 มีประสิทธิภาพ (E / E ) เท่ากับ 88.40/85.25

5. ผลการวิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผลของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 คู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.72183 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน หรือคิดเป็น

ร้อยละ 72. 18

6. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของ

การเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจ

ต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 โดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62)

คำสำคัญ : การพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

________________________________________________________________

1 ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัด

ปราจีนบุรี

บทนำ

ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารมีหลายรูปแบบ และวิธีการเขียนสื่อความเป็นการสื่อสารวิธีหนึ่งที่มนุษย์เราใช้มากที่สุด การเขียนเป็นทักษะสำคัญใน 4 ทักษะของการใช้ภาษา คือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียน การเขียนมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ ถ่ายทอดความรู้ สติปัญญาของมนุษย์ อีกทั้งสื่อสารถึงความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมาให้ผู้อื่นได้รับรู้ นอกจากนี้วิธีการใช้สัญลักษณ์ตัวอักษร ยังแสดงออกได้ถึงกระบวนการทางความคิดอีกด้วย (กรมวิชาการ. 2548 : 27-28 อ้างถึงในสุวัฒน์ วิวัฒนานนท์. 2550 : 67) ดังนั้นการเขียนจึงเป็นวิธีการสื่อสารอย่างหนึ่งของมนุษย์ ที่แสดงออกทางภาษาเป็นลายลักษณ์อักษร

เพื่อแสดงความรู้ ความคิด ความสามารถและประสบการณ์ต่าง ๆ ของตนเองให้คนอื่นได้รับรู้ สอดคล้องกับ อัจฉรา ชีวพันธ์ ( 2550 : 1-4) ที่กล่าวไว้ว่า การเขียนเป็นสิ่งสำคัญต่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน

เน้นทักษะการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด และประสบการณ์ต่าง ๆ ของผู้เขียน เพื่อสื่อสารให้ผู้อื่นเกิดความเข้าใจได้ตรงตามที่ผู้เขียนต้องการ โดยการนำถ้อยคำ มาเรียงลำดับความคิดให้ต่อเนื่องกัน เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงพฤติกรรมการสร้างสรรค์ของผู้เขียน ดังนั้นการเขียนจึงเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นสำหรับทุกคน โดยเฉพาะการเขียนเชิงสร้างสรรค์

การเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็นการเขียนซึ่งมีลักษณะของการคิดริเริ่ม โดยที่ผู้เขียนต้องใช้จินตนาการ

และประสบการณ์ของตนเชื่อมโยงความคิดในการเขียน (อัจฉรา ชีวพันธ์. 2550 : 3) การเขียน

เชิงสร้างสรรค์ นอกจากจะสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจแล้ว ต้องแสดงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ที่เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนเอง หรือความคิดคำนึงของตน เขียนออกมาด้วยความสละสลวยประทับใจผู้อ่าน ผู้ฟัง และให้ความรู้สึกเพลิดเพลินใจและประดับสติปัญญาไปในตัว นอกจากนี้การเขียนเชิงสร้างสรรค์ต้องเป็นการเขียน

ที่มิได้ลอกเลียนแบบผู้อื่น มีอิสระที่จะคิดรูปแบบใหม่แตกต่างไปจากแนวคิดเดิมที่มีอยู่ มีความน่าสนใจ

เป็นผลงานที่มีคุณค่าทางความคิดริเริ่มอย่างเด่นชัด (กรมวิชาการ. 2540 : 25) ซึ่งสอดคล้องกับ

ฐะปะนีย์ นาครทรรพ (2538 : 340) ที่กล่าวว่าการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็นการพัฒนาศักยภาพทางด้านการใช้ภาษาเพื่อถ่ายทอดความคิดในทางสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ช่วยให้ผู้เขียนได้ระบายอารมณ์ตามธรรมชาติที่มีอยู่ในตัว ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน ชื่นชมในศิลปะ ซาบซึ้งในภาษาเพื่อการแสดงออกด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับตัวทางอารมณ์และสังคมได้อย่างดี

ผู้ศึกษาได้วิเคราะห์ผลการสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี วิชาภาษาไทย ปีการศึกษา 2556 และ 2557

(โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี 2557 : 9) ผลปรากฏ ดังนี้ ปีการศึกษา 2556 คะแนนเฉลี่ยรวมวิชาภาษาไทยระดับโรงเรียนเท่ากับ 43.89 ซึ่งต่ำกว่าระดับประเทศซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 44.25 ถ้าวิเคราะห์ในสาระการเรียนรู้การเขียนในระดับโรงเรียนคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 46.19 ซึ่งต่ำกว่าระดับประเทศซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 47.43 และในปีการศึกษา 2557 คะแนนเฉลี่ยรวมวิชาภาษาไทยระดับโรงเรียนเท่ากับ 35.08 ซึ่งต่ำกว่าระดับประเทศซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 35.20 ถ้าวิเคราะห์ในสาระการเรียนรู้

การเขียนในระดับโรงเรียนคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 34.62 ซึ่งต่ำกว่าระดับประเทศซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย

เท่ากับ 34.77 และสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติมีข้อเสนอแนะให้โรงเรียนเร่งพัฒนาสาระการเรียนรู้

การเขียนสำหรับนักเรียนในโรงเรียนทั้ง 2 ปีการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับรายงานผลการจัดการศึกษา

วิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี

ในปีการศึกษา 2556 และ 2557 นักเรียนส่วนมากมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทักษะการเขียนในระดับ

ที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนเชิงสร้างสรรค์ และจากการประเมินผลการเรียนก่อนเรียนนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2558 พบว่า นักเรียนส่วนมากมีปัญหาในเรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์เช่นกัน ผู้รายงานในฐานะที่เป็นครูประจำชั้นจึงเห็นความสำคัญและจำเป็นต้องดำเนินการพัฒนาการเรียนรู้การเขียนเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรีขึ้น

วัตถุประสงค์ของการศึกษา

1. เพื่อพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี

2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

น้อมเกล้า กบินทร์บุรี ที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์

ขอบเขตของการศึกษา

1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา

1.1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนที่เรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 201 คน

1.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือนักเรียนที่เรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ห้อง 3/4 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558

จำนวน 41 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม

2. ระยะเวลาในการศึกษา

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558

3. เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา

เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา คือ เนื้อหากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามหลักสูตรโรงเรียน

เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา

1. คู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ชนิดเลือกตอบแบบปรนัย

ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ

3. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ตามคู่มือแผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบประเมินคุณภาพชนิดมาตราส่วนประมาณค่า

(Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ

ผลการวิจัย

1. ผลการประเมินคุณภาพของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้เชี่ยวชาญ ผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพของคู่มือการใช้แผนโดยรวมในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.67 ถ้าแยกเป็นตอน ผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ตอนที่ 2 เนื้อหาของคู่มือการใช้แผน โดยรวมในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.67และผู้เชี่ยวชาญประเมินคุณภาพของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ตอนที่ 1 คุณภาพของคู่มือการใช้แผน โดยรวมในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.64 ถ้าพิจารณา เป็นรายข้อ ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสมของเอกสารในระดับมากและมากที่สุดทุกข้อ มีค่าเฉลี่ย ( ) ระหว่าง 4.43 – 4.86

2. ผลการวิเคราะห์ คะแนนเฉลี่ยจากการตรวจใบงานหรือชิ้นงาน การสังเกตพฤติกรรม

การเรียนรู้นักเรียน และการประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม (ประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1))

นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจากการประเมินการปฏิบัติตามใบงาน การประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม

และการสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอนกลุ่มสาระ

การเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทั้ง 8 แผน ได้คะแนนเฉลี่ยรวม 17.68 คิดเป็นร้อยละ 88.40 ประสิทธิภาพ

ของกระบวนการ (E ) เท่ากับ 88.40

3. ผลการวิเคราะห์ คะแนนเฉลี่ย และร้อยละของคะแนนที่ได้จากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน(ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2)) คะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์

ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียน คะแนนเต็ม 20 คะแนน ได้ค่าเฉลี่ย 17.05 คิดเป็นร้อยละ 85.25 แสดงว่า ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 85.25 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน

สูงกว่าก่อนเรียน

4. สรุปประสิทธิภาพของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า คู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบ

การสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 มีประสิทธิภาพ (E / E ) เท่ากับ 88.40/85.25

5. ผลการวิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผลของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ดัชนีประสิทธิผลของคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบ การสอนกลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.72183 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากก่อนเรียน หรือคิดเป็นร้อยละ 72.18

6. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามคู่มือ

การใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62) ถ้าพิจารณาเป็นรายด้านนักเรียนมีความพึงพอใจมากเป็นอันดับ 1 คือด้าน

การใช้สื่ออุปกรณ์ นักเรียนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด ( = 4.71) อันดับที่ 2 คือด้านกิจกรรมการเรียนการสอนนักเรียนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุด ( = 4.61) อันดับที่ 3 คือ นักเรียนด้านเนื้อหา

เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ นักเรียนมีความพึงพอใจระดับมากที่สุดทุกข้อ

ข้อเสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้

1.1 ครูผู้สอนภาษาไทยมีบทบาทสำคัญ เพราะจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาไทยให้นักเรียนเกิดทักษะการเขียนเชิงสร้างสรรค์ต้องมีเทคนิคการสอน ขณะปฏิบัติกิจกรรม

ต้องพยายามตั้งคำถามให้กับนักเรียนมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความคิดอย่างหลากหลาย และให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ

1.2 การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็นการจัดกิจกรรมที่เน้น

นักเรียนเป็นสำคัญ ปฏิบัติจริงในลักษณะของการศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์ สังเคราะห์ ปฏิบัติ

ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนและกิจกรรมที่ต้องฝึกให้เกิดทักษะ นักเรียนอาจใช้เวลาปฏิบัติกิจกรรมนานกว่า

ที่กำหนด ครูผู้สอนอาจยืดหยุ่นเวลาได้ หรือมอบหมายให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าหลังเวลาเรียนเพิ่มเติม

1.3 ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่น ผู้บริหาร ฝ่ายวิชาการ หน่วยศึกษานิเทศก์ ควรนำเอกสารคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย หน่วยการเรียนที่ 6 ประเภทของการเขียน เรื่องการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปเผยแพร่ ให้ครูผู้สอนนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพราะเป็นกระบวนการที่สามารถจะช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. ข้อเสนอแนะในการศึกษาต่อไป

2.1 ควรมีการพัฒนาคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในหน่วยการเรียนรู้อื่น หรือสาระการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น

2.2 ควรทำพัฒนาคู่มือการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในระดับชั้นอื่น ๆ ด้วย

กิตติกรรมประกาศ

รายงานการศึกษาเล่มนี้สำเร็จได้ด้วยดี ด้วยความช่วยเหลือและได้รับแนะนำอย่างดียิ่งจาก

ผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ดังนี้

1. นายคมสรร รสดี ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการศึกษา

2. นายเชาวฤทธิ์ โคละทัต ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการศึกษาและด้านหลักสูตรและการสอน

3. นางวิไลวรรณ นวลเลิศ ครู วิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ โรงเรียนเขาฉกรรจ์วิทยาคม

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอนภาษาไทย

4. นางบุษวรรณ เชื้อเอม ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเขาฉกรรจ์วิทยาคม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอนภาษาไทย

5. นางวรัญญา พงษ์ประเสริฐ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนมัธยมวัดป่ามะไฟ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรและการสอนภาษาไทย

6. นางสาวนันทิยา ปาลกวงศ์ ณ อยุธยา ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียน

เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดผล

และประเมินผล

7. นางสาวสุพรรษา วุฒิยา ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

น้อมเกล้ากบินทร์บุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย

ขอขอบคุณคณะผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่ได้กรุณาให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และเป็นผู้เชี่ยวชาญ

ในการตรวจสอบคู่มือการใช้แผนการสอน แผนการสอน และเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้

เป็นอย่างสูง

ขอขอบคุณผู้บริหารโรงเรียน คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษา

ขั้นพื้นฐานโรงเรียน และนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า กบินทร์บุรี ที่ให้ความร่วมมือ

ในการพัฒนางานเป็นอย่างดียิ่ง ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. การจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระภาษาไทยตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา

ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2551.

ฐะปะนีย์ นาครทรรพ. การสอนทักษะเพื่อการสื่อสารระดับมะยมศึกษาตอนต้น หน่วยที่ 6

“การสอนภาษาไทย หน่วยที่ 1 – 8”. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2538

วิชาการ, กรม. ศิลปการใช้ภาษา. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2540.

สุวัฒน์ วิวัฒนานนท์. ทักษะการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน. นนทบุรี : ซี.ซี. นอลจิคจ์ลิงคส์, 2550.

อัจฉรา ชีวพันธ์. กิจกรรมการเขียนสร้างสรรค์ในชั้นประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550.

โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้ากบินทร์บุรี. รายงานการจัดการศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

น้อมเกล้ากบินทร์บุรี ประจำปีการศึกษา 2557. ปราจีนบุรี : โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา

น้อมเกล้ากบินทร์บุรี, 2557.

โพสต์โดย ประมวล : [29 ก.พ. 2559 เวลา 18:28 น.]
อ่าน [3974] ไอพี : 27.55.155.70
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,199 ครั้ง
ADSL Technology
ADSL Technology

เปิดอ่าน 25,378 ครั้ง
เท่...แต่โหด กับ พิทบูล
เท่...แต่โหด กับ พิทบูล

เปิดอ่าน 769 ครั้ง
UNESCO ประกาศขึ้นทะเบียน "สงกรานต์ไทย" เป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
UNESCO ประกาศขึ้นทะเบียน "สงกรานต์ไทย" เป็นรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ

เปิดอ่าน 29,949 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลธรรมดา
วิธีปฐมพยาบาลบาดแผลธรรมดา

เปิดอ่าน 40,218 ครั้ง
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน
การจัดการศึกษาในโรงเรียนแบบเชิญชวน

เปิดอ่าน 43,347 ครั้ง
พุทธคุณ 3
พุทธคุณ 3

เปิดอ่าน 10,775 ครั้ง
ส่งท้ายปีเก่า 2553
ส่งท้ายปีเก่า 2553

เปิดอ่าน 13,514 ครั้ง
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!
"แพลงกิ้ง" ยิ่งเล่น ยิ่งหน้าแก่!

เปิดอ่าน 11,840 ครั้ง
อยากอยู่ร้อยปี ต้องสร้าง 10 นิสัยสุขภาพดี
อยากอยู่ร้อยปี ต้องสร้าง 10 นิสัยสุขภาพดี

เปิดอ่าน 17,683 ครั้ง
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project
โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา Partnership School Project

เปิดอ่าน 14,132 ครั้ง
ขนมเสริมมงคล 12 ราศี
ขนมเสริมมงคล 12 ราศี

เปิดอ่าน 10,830 ครั้ง
แก้ปวดหัวด้วยน้ำ
แก้ปวดหัวด้วยน้ำ

เปิดอ่าน 10,345 ครั้ง
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010
วิวาห์ใต้สมุทรตรัง 2010

เปิดอ่าน 33,862 ครั้ง
Plasma TV คืออะไร
Plasma TV คืออะไร

เปิดอ่าน 35,758 ครั้ง
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
โนบิ โนบิตะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน

เปิดอ่าน 11,934 ครั้ง
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ
บทร้อยกรองสำหรับการฝึกการออกเสียง สระเอือ
เปิดอ่าน 16,513 ครั้ง
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"
6 เคล็ดลับเด็ด "การลดหน้าท้อง"
เปิดอ่าน 53,852 ครั้ง
ประวัติ....ซานตาคลอส
ประวัติ....ซานตาคลอส
เปิดอ่าน 9,916 ครั้ง
ทึ่ง! เจ้าหมูซูเปอร์ฮีโร่ช่วยชีวิตลูกแพะตกน้ำ
ทึ่ง! เจ้าหมูซูเปอร์ฮีโร่ช่วยชีวิตลูกแพะตกน้ำ
เปิดอ่าน 28,749 ครั้ง
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)
สัตว์พวกปลาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเลย โดนถูกเบ็ดเกี่ยวดิ้น ก็ไม่ได้ตกอกตกใจ(วิทย์)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ