เรื่องที่ศึกษา รายงานการพัฒนาและทดลองใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้รายงาน กัญญณัช บุญเฉลียว
ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ
คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียน วัดบ้านดงวิทยาคาร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 45 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ใช้รูปแบบการทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือ ที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศษส่วนและทศนิยมจำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยมโดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบค่า t
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม กลุ่มสาระ การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 81.40/77.93
2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านดงวิทยาคาร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยมกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านดงวิทยาคาร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยมกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก