ชื่อเรื่อง                 รายงานการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้

                               สุข ศึกษา และพลศึกษา  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  4

ผู้ศึกษา                นางเปรมจิต   อุปพันธ์ 

ตำแหน่ง              ครู  วิทยฐานะ  ชำนาญการ

สถานศึกษา       โรงเรียนบ้านหนองไคร้  อำเภอสันทราย  จังหวัดเชียงใหม่

ปีที่รายงาน          พ.ศ  2552

บทคัดย่อ

                      การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์   เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ    กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา  สาระที่ 4  เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ  สมรรถภาพและการป้องกันโรค  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  4   เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน  ที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ  ก่อนเรียนและหลังเรียน  ศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4โรงเรียน

บ้านหนองไคร้  จำนวน   84    คน   กลุ่มตัวอย่างนักเรียน  ชั้นประถมศึกษาปีที่  4   ห้องที่  2  โรงเรียนบ้านหนองไคร้  ภาคเรียนที่  2  ปีการศึกษา   2551  จำนวน   42    คนโดยการสุ่มแบบเจาะจง

                     เครื่องมือที่ใช้การศึกษาประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ จำนวน  7  เล่ม    แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 14  แผน  แบบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียน   แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เครื่องมือทั้งหมดนี้ได้ผ่านการตรวจพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญและปรับปรุงแก้ไขแล้ว สถิติที่ในการศึกษาครั้งนี้คือค่าสถิต E₁/E₂ ค่าเฉลี่ย   ( X ) และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าดัชนีความสอดคล้อง ( IOC)  ค่าความยากง่าย ( P ) ค่าอำนาจจำแนก ( R ) ค่าความเชื่อมั่นโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ 

   ผลการศึกษามีดังนี้

            1.   บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  4  มีประสิทธิภาพ (E₁/E₂)  เท่ากับ 82.99/85.95      สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ  80/80  ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้

2.       คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2  ภาคเรียนที่ 2

 ปีการศึกษา  2551 พบว่าก่อนเรียนได้คะแนนรวม  791  คะแนน  คิดเป็นร้อยละ62.78หลังการใช้ บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ   ได้คะแนนรวม   1,083   คะแนน  คิดเป็นร้อยละ 85.95       และมีคะแนนเพิ่ม     292     คะแนน  คิดเป็นร้อยละ 36.92  

                    จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ในการเรียนของกลุ่มตัวอย่างงก่อนและหลังการใช้   บทเรียนสำเร็จรูป  เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา  ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ภาคเรียนที่2    ปีการศึกษา  2551   พบว่ามี ความแตกต่างกัน

อย่างนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01= 2.423  แสดงว่า  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของกลุ่มตัวอย่าง   หลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา 

 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่  4/2  สูงกว่าก่อนใช้ บทเรียนสำเร็จรูป   เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ 

กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา    ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้

            3.  ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2 ที่มีต่อบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ  กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา  ด้วยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก  มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ (X =  4.49)  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)เท่ากับ  0.61 เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือข้อที่    4   นักเรียนมีความสุข  เมื่อได้เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป เรื่องการสร้างเสริมสุขภาพ    กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา  

Advertisement