หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
จิราภรณ์ หอมกลิ่น
จากจังหวัด ยโสธร

10 รถเด่น.....แห่งปี 2009
โพสต์เมื่อวันที่ : 29 ธ.ค. 2552 IP : เปิดอ่าน : 6245 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(13.33%-3 ผู้โหวต)
☰แชร์เลย >  
  Share on Google+   LINE it!  
เพิ่มเพื่อน
ไม่พลาดข่าวการศึกษา
ครูบ้านนอก Line Official
กดเพิ่มเพื่อนเลย

Advertisement

.....

10 รถเด่นแห่งปี 2009

แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกจะยังอยู่ในช่วงขาลงซึ่งเป็น ผลต่อเนื่องมาจากปี 2008 และมีผลกระทบต่อตลาดรถยนต์บ้าง แต่ก็ดูเหมือนว่าผลกระทบจากเรื่องนี้จะโดนเข้าเต็มๆ ในแง่ของตัวเลขยอดขายมากกว่า แต่ทว่าในด้านการเปิดตัวผลผลิตใหม่ๆ ออกสู่ตลาด หลายบริษัทยังเดินหน้าตามแผนการเดิมที่วางเอาไว้ และปี 2009 ถือเป็นอีกปีที่มีรถยนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเปิดตัวออกมาสู่ตลาดหลายต่อหลายรุ่น

และนี่คือ 10 รถยนต์ใหม่ในสายการผลิตซึ่งมีความน่าสนใจและถูกเปิดต ัว (หมายถึงเปิดผ้าคลุมในงานมอเตอร์โชว์ที่จัดขึ้นในปี 2009 หรือมีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นเรื่องเป็นร าว ไม่ใช่แค่ร่อนภาพถ่ายออกมาทางอินเตอร์เนตแล้วบอกว่าจ ะเปิดตัวในงานนั้นงานนี้ของปี 2010) ออกสู่ตลาดโลกในช่วงปี 2009 ซึ่งแน่นอนว่ามีหลายรุ่นที่มีขายในเมืองไทยแล้ว ส่วนบางรุ่นอาจจะต้องรอกันอีกสักระยะกว่าจะมีขายโดยต ัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย

1.Rolls-Royce Ghost

แม้ดูจะเป็นรถยนต์ที่เกินเอื้อม แต่ในเรื่องของการพลิกแนวคิดการทำตลาดของโรลส์-รอยซ์ส่งผลทำให้ Baby RR หรือที่ใช้ชื่อ Ghost ในการทำตลาดเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจ ตัวรถถูกประกาศว่าจะขึ้นไลน์ผลิตในงานออโต้ เซี่ยงไฮ้เดือนเมษายนที่ผ่านมา หรือเพียงแค่ 1 เดือนหลังการเปิดตัวเวอร์ชันต้นแบบในชื่อ 200EX ซึ่งเผยโฉมในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ ส่วนคันขายจริงเผยโฉมในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 เดือนกันยายนที่ผ่านมา

ความน่าสนใจคือการที่โรลส์-รอยซ์พยายามปรับกลยุทธ์ในการทำตลาดลงสู่ตลาดที่ต่ำกว ่าที่ตัวเองทำอยู่ ด้วยการส่งทางเลือกออกมาแทรกกลางระหว่างรุ่นท็อปของบ ีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 กับโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงในการทำตลาดของโกสต์อยู่ที่กา รประชันกับรถยนต์รุ่น Mulsanne ของเบนท์ลีย์ที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

โกสต์แชร์พื้นฐานร่วมกับซีรีส์ 7 รุ่นปัจจุบัน หรือ F01/02 ถึง 20% ซึ่งก็รวมถีงเครื่องยนต์วี12 6,600 ซีซีเทอร์โบ 571 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF ส่วนราคาในการทำตลาดอยู่ที่ 255,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 8.9 ล้านบาท และจะเริ่มขายต้นปี 2010

2.Porsche Panamera

พอร์ชกับตลาด 4 ประตูในที่สุดก็กลายเป็นจริงหลังจากที่เคยมีการทดลอง ผลิตเวอร์ช้นต้นแบบออกมาในช่วงปี 1988 โดยข่าวการผลิตพานาเมอรามีให้ติดตามกันตั้งแต่ปลายปี 2008 แต่พอร์ชเพิ่งจะนำออกมาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในงานโชว์ ที่เซี่ยงไฮ้ เดือนเมษายน 2009

ตัวรถใช้รหัส 970 เน้นความสปอร์ตด้วยเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยว และมาในแบบเครื่องยนต์วางด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ 4 ล้อ โดยมีให้เลือก 3 รุ่น คือ พานาเมอรา เอส, โฟร์เอส ซึ่งใช้เครื่องยนต์วี8 4,800 ซีซี 400 แรงม้า และเทอร์โบ ซึ่งติดตั้งเทอร์โบคู่รีดกำลังออกมาได้ 500 แรงม้า

เมื่อเปรียบเทียบกับคาเยนน์แล้วดูเหมือนว่าเสียงตอบร ับจากแฟนๆ ของพอร์ชจะดีกว่าการริเริ่มทำตลาดเอสยูวีที่ต้องใช้เ วลานานพอสมควรกว่าที่แฟนพอร์ชหัวอนุรักษ์นิยมจะยอมรั บได้ และพานาเมอราก็ใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือนนับจากการเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าเมื่อเดือนกัน ยายนที่ผ่านมา ฉลองยอดการผลิตครบ 10,000 คัน

3.Mercedes-Benz SLS AMG

SLR McLaren
ปิดฉากตำนานซูเปอร์เบนซ์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านม า และน่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุดจบในด้านความสัมพันธ์ระหว ่างเมอร์เซเดส-เบนซ์กับแม็คลาเรนด้วยเช่นกัน เพราะหลังจากนั้น ค่ายแม็คลาเรนก็เปิดตัวรถสปอร์ตแบรนด์ตัวเองออกมา และในปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เดมเลอร์ เอจี บริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ประกาศเทขายหุ้นที่ตัวเองถืออยู่ 40% ในแม็คลาเรนก็ถูกขายกลับคืนไป พร้อมกับเทคโอเวอร์ทีมบรอว์น จีพีเป็นทีมแข่งโรงงานของตัวเองเพื่อลงแข่ง F1 ในปี 2010 ภายใต้ชื่อ เมอร์เซเดส จีพี

ที่เล่ามาข้างบนไม่ได้เกี่ยวกับการเปิดตัวของ SLS AMG แต่เป็นบริบทที่กำลังสื่อให้เห็นว่าต่อไป การเดินหน้าลุยตลาดซูเปอร์คาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์จะไม่มีแม็คลาเรนเป็นแบ็คอัพเหมือนกับโปรเจ็ตก์ SLR อีกต่อไป ซึ่ง SLS AMG ถูกเปิดตัวออกมาในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 ถือเป็นผลงานการพัฒนาของทีมงานเมอร์เซเดส-เบนซ์และ AMG ล้วนๆ โดยเป็นการคืนขีพ Gullwing กลับสู่ตลาด เพราะนำสไตล์การออกแบบของประตูที่เปิดขึ้นแบบปีกนกขอ ง 300SL อันโด่งดังในทศวรรษที่ 1950 กลับมาอีกครั้ง

รุ่นที่จำหน่ายเป็นตัวถังคูเป้มากับเครื่องยนต์วี8 6,200 ซีซีของ AMG ที่มีกำลังขับเคลื่อน 571 แรงม้า ส่วนในปี 2015 ค่ายดาว 3 แฉกมีแผนผลิตเวอร์ชันพลังไฟฟ้าของ SLS AMG ออกมาขายด้วย และจะเริ่มการทดสอบในปีหน้า เช่นเดียวกับรุ่นโรดสเตอร์ หรือเปิดประทุนที่จะผลิตออกมาในปี 2010 ส่วนราคาของ SLS AMG อยู่ที่ 177,310 ยูโร หรือ 8.8 ล้านบาท และจะเริ่มส่งมอบในยุโรปกลางปี 2010

4.Toyota Prius

เจนเนอเรชันที่ 3 ของพริอุสเปิดตัวออกมารับกระแสความต้องการรถยนต์ประห ยัดน้ำมันกันตั้งแต่งานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2009 พร้อมกับคู่แข่งอย่างฮอนด้า อินไซต์ ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวตามมอเตอร์โชว์รายการต่างๆ และเริ่มขายกันในช่วงกลางปี

ในรุ่นใหม่นี้มีทั้งเวอร์ชันธรรมดาที่ใช้เครื่องยนต์ ไฮบริดรุ่นใหม่ที่ขยายความจุของขุมพลังเบนซินเป็น 1,800 ซีซี 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร มีกำลังสูงสุด 80 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 21.1 กก.-ม. แต่เมื่อรวมการทำงานของทั้ง 2 ส่วนเข้าด้วยกัน ขุมพลังไฮบริดรุ่นนี้สามารถตอบสนองกำลังสูงสุดได้ 134 แรงม้า และอีกรุ่นคือ PHEV แบบไฮบริด ปลั๊กอิน เสียบชาร์จกระแสไฟฟ้าได้ ซึ่งโตโยต้ากำลังทดสอบอยู่ และจะเริ่มขายในปีหน้า

จากความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยการปลดปล่อยไอเสีย ออกสู่อากาศตามมาตรฐาน SULEV หรือ Super Ultra Low Emission Vehicle และมีค่าความประหยัดน้ำมันเฉลี่ยที่ 20.3 กิโลเมตร/ลิตรสำหรับการขับแบบผสมจากการทดสอบของ EPA ซึ่งตัวเลขดีกว่า 2 เจนเนอเรชันที่ผ่านมา ทำให้พริอุสใหม่ได้รับเลือกให้คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเย ี่ยมของญี่ปุ่น หรือ JCOTY ซึ่งประกาศผลในงานโตเกียว มอเตอร์โชว์ เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

5.BMW 5 Series GT

ถือเป็นสีสันและความแปลกใหม่เมื่อบีเอ็มดับเบิลยูทำเ ซอร์ไพรส์ เปิดตัวซีรีส์ 5 เจนเนอเรชันใหม่ออกมาโดยเลือกตัวถังใหม่อย่าง GT หรือ Gran Turismo ในแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตูออกมาเป็นรุ่นแรกของสายพันธุ์ แทนที่จะเป็นซีดาน 4 ประตูเหมือนกับที่ผ่านๆ มา

GT จะมากับรหัสตัวถัง F07 พร้อมกับการอัพเกรดตลาดด้วยการแทรกกลางในเรื่องของรา คาและสเปกระหว่างซีรีส์ 5 ตัวถังซีดานและสเตชันแวกอน กับซีรีส์ 7 ในช่วงแรกมีให้เลือก 3 แบบสำหรับการขับเคลื่อนแบ่งเป็นเบนซิน 2 รุ่น คือ 535i Gran Turismo แบบ 6 สูบเรียง ทวินแคม 3,000 ซีซี เทอร์โบ 306 แรงม้า และ 550i Gran Turismo แบบวี8 ทวินแคม 32 วาล์ว 4,400 ซีซี เทอร์โบ 407 แรงม้า และ 530d Gran Turismo แบบ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี 245 แรงม้า ทุกรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังพร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัต โนมัติ 8 จังหวะที่ยกมาจาก 760Li

แน่นอนว่าในช่วงแรกที่บีเอ็มดับเบิลยูปล่อยข่าวนี้ออ กมา หลายคนกังวลว่าซีรีส์ 5 อาจจะไม่มีซีดานออกมาขาย แต่สุดท้ายก็เป็นแค่ความกังวลใจ เพราะในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซีรีส์ 5 ใหม่รหัส F10 ก็ถูกเปิดตัวออกมาพร้อมกับหน้าตาซึ่งถอดแบบมาจากรุ่น GT ยกตัวถังด้านท้ายที่ถูกออกแบบให้แตกต่างออกไป

6.Nissan LEAF

2 สิงหาคม คือ อีกวันสำคัญของอุตสาหกรรมรถยนต์ เมื่อนิสสันเผยโฉมรถยนต์พลังไฟฟ้ายุคใหม่ที่เป็น Affordable Car ซึ่งมีราคาที่ไม่แพงจนเกินไปและสามารถเป็นเจ้าของได้ ตามชื่อรุ่น Leading, Environmentally Friendly, Affordable, Family Car ซึ่งแปลตรงตัวแล้วก็หมายถึงรถยนต์สำหรับครอบครัวเพื่ อสิ่งแวดล้อมในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้

LEAF ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ AC ขนาด 80 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถสร้างแรงบิดได้ 28.5 กก.-ม. และแบตเตอรี่ขนาด 90 KW จะมีโหมดควิกชาร์จให้เลือกด้วยเวลาเพียง 30 นาทีในการชาร์จกระแสไฟฟ้าจนอยู่ในระดับ 80% และเมื่อชาร์จจนเต็ม จะขับได้ระยะทางมากกว่า 160 กิโลเมตร

โดยสิ่งที่น่าสนใจคือ กลยุทธ์การกระตุ้นยอดขาย ซึ่งนิสสันเผยว่าจะมีออพชั่นให้ลูกค้าเลือกซื้อภายใต ้เงื่อนไขของการเช่าใช้แบตเตอรี่ ซึ่งจะทำให้มีราคาถูกกว่าซื้อเหมาทั้งคัน และทำให้มีราคาใกล้เคียงกับรถยนต์ระดับเดียวกันที่ใช ้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เพราะจริงอยู่ที่ราคาของแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไออนในปัจจุบันจะถูกลงแต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ อีกทั้งแนวคิดนี้เป็นการกระตุ้นให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให ้ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากเอื้อต่อการเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น
ถือเป็นไอเดียที่น่าสนใจอย่างมาก

7.Mazda 2

กลายเป็นรถยนต์ที่อยู่ในกระแสความสนใจของคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนที่จะมีการเปิดตัวซึ่งมีการตั้ งคำถามไปต่างๆ นานาว่า มาสด้า 2 ที่ขายบ้านเราจะมีหน้าตาอย่างไร เพราะจากการที่เปิดตัวในบ้านเราช้ากว่าตลาดโลกร่วม 2 ปี ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะยังเป็นรุ่นเดิมหรือรุ่นปรับโ ฉม-ไมเนอร์เชนจ์

จนกระทั่งมีภาพของมาสด้า 2 คันจริงออกจากไลน์ผลิตในบ้านเราถึงทราบว่าจะเป็นรุ่น ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งมีการปรับปรุงหน้าตาใหม่เพื่อความสดใส โดยมาสด้านำ 2 ไมเนอร์เชนจ์เปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นก่อนพร้อมกับชื ่อเดมิโอในการทำตลาด ส่วนบ้านเราเปิดตัวหลังจากนั้นตามมาประมาณ 1 เดือน จากนั้นจึงค่อยนำไปเปิดตัวในสหรับอเมริกาที่งานแอลเอ มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

8.Lexus LFA

ทิ้งระยะนานรวม 4 ปีนับจากการเปิดตัวเวอร์ชันต้นแบบที่งานโชว์ในดีทรอย ต์เมื่อปี 2005 ตอนนี้เล็กซัส แบรนด์ระดับหรูของโตโยต้า เดินหน้าลุยตลาดซูเปอร์คาร์ครั้งใหม่ด้วย LFA ความสปอร์ตที่เพียบพร้อมด้วยความหรูและความแรง
LFA ถูกเปิดตัวออกมาในโตเกียว มอเตอร์โชว์ 2009 บนตัวถังสปอร์ตคูเป้ 2 ที่นั่ง และเร้าใจด้วยเครื่องยนต์วี10 รุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกับยามาฮ่า มีความจุ 4,805 ซีซี พร้อมกำลังสูงสุด 552 แรงม้า ที่ 8,700 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 48.9 กก.-ม. ที่ 6,800 รอบ/นาที หรือคิดออกมาแล้วมีกำลังต่อลิตรอยู่ที่ 115 แรงม้า/ลิตร พร้อมระบบอ่างน้ำมันเครื่องแบบ Dry Sump ทำให้สามารถวางเครื่องยนต์ได้ต่ำลงเพื่อประโยชน์ในเร ื่องจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถ

ราคาขายของ LFA อยู่ที่ 368,000 ยูโรหรือ 18.4 ล้านบาท โดยจะมีขายในตลาดทั่วโลก เพียงแต่มีจำนวนจำกัด เพราะผลิตเพียง 500 คันเท่านั้น

9.McLaren MP4-12C

นานเอาเรื่องเหมือนกันที่แม็คลาเรนหายหน้าไปจากตลาดซ ูเปอร์คาร์ เพราะรุ่นสุดท้ายที่มีขายคือ F1 ที่ผลิตออกมาในปี 1993 และขายจนถึงปี 1998 แต่คราวนี้แม็คลาเรนเดินหน้าเต็มตัว เพราะถึงกับตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อผลิตรถสปอร์ตใน ชื่อ แม็คลาเรน ออโตโมทิฟที่มีรอน เดนนิส อดีต Team Principle คนเก่งของทีม F1 รับหน้าที่เป็น CEO ของบริษัท

ตัวรถถูกเปิดตัวออกมาในวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา แต่กว่าจะเริ่มขายได้ต้องร้องเพลงรอกันนานๆ หน่อย เพราะเริ่มส่งมอบในปี 2011 โดย MP4-12C จะเป็นสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่มีระดับตลาดชนกับพ อร์ช 911 และเฟอร์รารี่ 458 Italia ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นตัวถังสปอร์ตคูเป้ แต่จะมีรุ่นเปิดประทุนหรือ Roadster ตามออกมา
นอกจากขุมพลังวี8 ทวินแคม 32 วาล์วบล็อกนี้ที่มีความจุเพียง 3,800 ซีซี แต่เมื่อติดตั้งเทคโนโลยีเพิ่มความแรงเข้าไปทั้งระบบ วาล์วแปรผัน VVT และเทอร์โบคู่ ทำให้สามารถเบ่งกล้ามออกมาได้ 600 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุดถึง 61.1 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์ Dual-Clutch แบบ 7 จังหวะสู่การขับเคลื่อนล้อหลัง

สำหรับราคาของ MP4-12C ในอังกฤษจะอยู่ที่ 150,000 ปอนด์ หรือ 8.25 ล้านบาท

10.Honda Insight

จากต้นแบบที่เปิดตัวในงานปารีส มอเตอร์โชว์ 2008 ในที่สุดอินไซต์ก็กลายมาเป็นคันจริงโดยเปิดตัวรุ่นจำ หน่ายจริงที่ดีทรอยต์พร้อมๆ กับโตโยต้า พริอุส โดยถือเป็นการกลับมาสู่ตลาดอีกครั้งหลังจากที่ฮอนด้า ยุติบทบาทการทำตลาดรถยนต์ไฮบริดในชื่อนี้มาตั้งแต่ปี 2006

การปัดฝุ่นนำชื่ออินไซต์มาใช้อีกครั้งไม่ได้หมายความ ว่าฮอนด้าจะเดินตามรอยเดิม แต่ทว่ามีการปรับเปลี่ยนแนวคิดด้วยการทำให้อินไซต์กล ายเป็นรถยนต์ไฮบริดที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายด้วยการตั ้งราคาขายในญี่ปุ่นเพียง 1.89 ล้านเยน (699,000 บาท) แทรกกลางระหว่างฟิตหรือแจ๊ซ กับซีวิค และนั่นทำให้อินไซต์ได้รับความนิยมจากลูกค้ามากกว่าร ุ่นแรกที่เปิดตัวขายในระหว่างปี 1999-2006

หน้าที่ของการขับเคลื่อนมาจากขุมพลัง 4 สูบ SOHC i-VTEC ที่มีความจุ 1,300 ซีซีขนาด 88 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 14 แรงม้าในการช่วยขับเคลื่อนส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT ที่ปรับปรุงมาจากระบบที่ใช้อยู่ในซีวิค ไฮบริดรุ่นปัจจุบัน
การพลิกโฉมจากสปอร์ตท้ายลาด 2 ที่นั่งสุดไฮเทคมาเป็นรถยนต์ไฮบริดสำหรับการใช้งานใน ชีวิตประจำวันทำให้อินไซต์ได้รับการจับตามองว่าจะสาม ารถช่วยยกระดับตัวเลขยอดขายของตลาดรถยนต์ไฮบริดให้เพ ิ่มขึ้น ซึ่งทางฮอนด้าเองก็ตั้งเป้ายอดขายต่อปีเอาไว้ถึง 200,000 คัน โดยครึ่งหนึ่งจะอยู่ในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา


     
Rolls-Royce Ghost    
     
Porsche Panamera    
     

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง 10 รถเด่น.....แห่งปี 2009
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

จิราภรณ์ หอมกลิ่น
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
จิราภรณ์ หอมกลิ่น..