หน้าแรก | ครูบ้านนอกบล็อก
ศูนย์รวมความคิด ความรู้ ประสบการณ์ ของคุณครู สมาชิกเว็บไซต์ ครูบ้านนอก.คอม ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ตั้งใจทำเพื่อสังคมครับ
เจ้าของโพสต์นี้
นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์
จากจังหวัด จันทบุรี

จากว่านเพชรหึง...เป็นว่านหางช้าง...กล้วยไม้..ที่ใหญ่ที่สุดในโลก....
โพสต์เมื่อวันที่ : 13 มิ.ย. 2552 IP : เปิดอ่าน : 7182 ครั้ง
คะแนนของ BLOG นี้
(77.69%-130 ผู้โหวต)

Advertisement

.....

จากว่านเพชรหึง.........เป็นว่านหางช้าง (กล้วยไม้..ที่ใหญ่ที่สุดในโลก)

ว่านมงคล..ยอดฮิต

   สวัสดีครับ  ทุกท่าน เมื่อกลางเดือนที่แล้วผม มีโอกาสไปเยี่ยมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร ตรัง (พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง)ชาวบ้านเรียกศูนย์เนื้อเยื่อ ที่นี่เพาะเลี้ยงกล้วยไม้ที่หายากและมีขนาดใหญ่ที่สุด  ผมเลยคัดลอกบทความของท่านผอ.วันชัย มาให้ท่านทั้งหลายได้ศึกษารับรู้ไปพร้อมๆกันว่ากล้วยไม้หรือว่าว่านหางช้างมีประวัติความเป็นมาอย่างไร

หางช้าง

            กล้วยไม้ว่านเพชรหึง" หรือที่ชาวปักษ์ใต้รู้จักกันในชื่อ "ว่านหางช้าง" เป็นกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นกล้วยไม้ป่าชนิดหนึ่งที่พบมากในประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดและศูนย์กลางของกล้วยไม้ที่สำคัญ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเจริญงอกงาม และมีลักษณะเด่นที่แตกต่างไปจากภูมิภาคอื่น โดยกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ในสกุล "แกรมมาโทฟิลลั่ม" (Grammatophyllum) ถือเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ในวงศ์ Orchidaceae

"ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตรัง" หรือชื่อเดิมว่า "ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยง" นั้นได้เริ่มศึกษาและขยายพันธุ์กล้วยไม้พันธุ์นี้ เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณชนและประชาชนทั่วไป นับตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค.ปี 2545 เป็นต้นมา จนสามารถขยายต้นพันธุ์ได้แล้วถึง 50,970 ต้น  จากการศึกษาพบว่า "ว่านเพชรหึง" มักจะอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชีย และหมู่เกาะทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก แต่ที่พบในประเทศไทยมีเพียงชนิดเดียวและมีต้นโตมาก จนถือได้ว่าเป็น "ราชินีกล้วยไม้" แต่คนไทยส่วนใหญ่มักเรียกว่า "ว่านหางช้าง" เนื่องจากลำลูกกล้วยมีลักษณะที่ยาว และมีใบติดอยู่ที่ปลายหลายใบ คล้ายกับหางช้างที่ชี้ขึ้นด้านบน

    นายวันชัย มุกดารัศมี ผู้อำนวยการศูนย์ฯ กล่าวว่า โดยทั่วไปว่านเพชรหึง เป็นกล้วยไม้ประเภทแตกกอ มีระบบรากอากาศ และมีต้นสูงราว 1-2 เมตร โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางต้น 3-5 เซนติเมตร ทั้งนี้ จะมีใบติดอยู่ที่ปลายลำลูกกล้วยเพียง 2-3 ใบ ส่วนดอกก็จะมีทั้งดอกชนิดช่อตั้งและช่อห้อย โดยกลีบดอกนั้นจะหนา มีพื้นกลีบสีเหลือง หรือเหลืองอมเขียว และยังจะมีแต้มน้ำตาลหรือม่วง คล้ายกับลวดลายของเสือ

      ทั้งนี้ เมื่อศึกษาแล้วจะพบว่าว่านเพชรหึงนั้น เป็นกล้วยไม้ป่าที่หากยากและเป็นกล้วยไม้พันธุ์พืชสงวน โดยมีบางคนที่นำออกจากป่ามาปลูก แต่ไม่สามารถเลี้ยงดูหรือขยายพันธุ์ได้ จึงทำให้กล้วยไม้พันธุ์นี้เริ่มที่จะสูญพันธุ์ ทางศูนย์จึงนำมาขยายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งโดยธรรมชาติของกล้วยไม้ชนิดนี้ เมื่อผสมเกสรและติดฝัก จะมีเมล็ดขนาดเล็กมากนับแสนๆ เมล็ด ที่ล่องลอยออกไปตามกระแสลม ซึ่งจะอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกๆ ปี แต่จะมีเพียงไม่กี่เมล็ดเท่านั้นที่สามารถรอดได้

      การขยายพันธุ์ว่านเพชรหึงด้วยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อนั้น จะเริ่มตั้งแต่การเพาะเมล็ดและการดูแลอย่างดีในห้องปลอดเชื้อ (ห้องแล็ป) เป็นระยะๆ จนกว่าต้นกล้าจะโตและแข็งแรง ก่อนที่จะนำออกมาเลี้ยงแบบธรรมชาติ ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี จากนั้นก็นำมาปลูกเลี้ยงตามธรรมชาติจนกว่าอายุครบ 5 ปี ก็จะเริ่มออกดอกมาให้ชื่นชม

      ขณะนี้แหล่งปลูกและอนุบาลว่านเพชรหึง ที่มากที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตรัง และนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 เป็นต้นมา ทางศูนย์สามารถขยายพันธุ์เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน ตามนโยบายของกรมส่งเสริมการเกษตร รวมแล้ว 1,981 ต้น

กล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสรรพคุณทางยา สนุนไพร แก้อะไร  รักษาโรคอะไรได้บ้าง เชิญทุกท่านพิจารณาได้เลยครับ

วิธีเพาะ “ว่านหางช้าง”

 
พิมพ์หน้านี้


ค้นพบวิธีเพาะ “ว่านหางช้าง” กล้วยไม้หายาก ต้นละ 500  บาทงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น:สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) “ว่านหางช้าง" หรือ "กล้วยไม้เพชรหึง" เป็นกล้วยไม้เฉพาะถิ่นของจังหวัดพังงา และระนอง  ลำต้นมีความยาวประมาณ 2 เมตร มีใบเรียวยาวขนาดเล็ก ดอกเป็นพวงประมาณ 120 -170 ดอก มีสีเหลืองลายจุดม่วงเม็ดมะปราง สนนราคาในท้องตลาดอยู่ที่ต้นละ 500  บาท หากกอใหญ่ และดอกสวยซื้อขา....



 

ผลของว่าน

ชื่อวิทยาศาสตร์      :  Belamcanda chinensis DC.

ชื่ออื่น ๆ    ว่านมืดยับ ว่านหางช้าง  เชื่อกัง(จีน)   , Black Berry Lily, Leopard Flower  กล้วยไม้เพชรหึง หรือว่านเพชรหึง (ภาคใต้)


 วงศ์         IRIDACEAE

 ลักษณะทั่วไป     :              

ต้น        เป็นพรรณไม้ขนาดเล็ก       ลำต้นกลมเป็นข้อ ๆ  มีความสูงประมาณ 50-120 ซม. ลำต้นนั้นจะเป็นสีเหลือง และมีรากฝอยอยู่เป็นจำนวนมาก 

 ใบ        จะออกสลับกันเป็น 2 แถว มีลักษณะเป็นแผ่นแบนคล้ายใบว่านน้ำ ตัวใบจะเป็นตรงยาว ตรงปลายแหลม          

 ดอก     จะออกเป็นช่อ ตรงยอด และจะแตกแยกเป็น 2-3 ช่อมีกลีบรองดอกเป็นแผ่นยาว และบานตรงปลายแหลม ดอกไม้วัดผ่าศูนย์กลางได้ 3-5 ซม. ดอกหนึ่งจะมีอยู่ประมาณ 5 กลีบ เป็นดอกสีเหลือง มีจุดเป็นสีแดงเข้ม มีเกสรตัวผู้อยู่ 3 อัน เกสรตัวเมียมี 1 อัน มีลักษณะเป็นเส้นยาวหนา ที่ตรงปลายจะแยกเป็นรอยตื้น ๆ ประมาณ 3 รอย และมีรังไข่อยู่ประมาณ 3 ห้อง          

 ผล       จะมีลักษณะเป็นผลยาวมี 3 พู เมื่อผลสุกก็จะแตกออกเป็น 3 กลีบ ภายในจะมีเมล็ดกลมเป็นสีดำ
 

  การขยายพันธุ์  โดยการเพาะเมล็ด 

 ส่วนที่ใช้      ใบ และเหง้า ใช้เป็นยา

 สรรพคุณ        ใบ       โดยนำเอาใบมา 3 ใบ แล้วปรุงเป็นยาต้ม ใช้เป็นยาระบายอุจจาระและ รักษาระดูพิการของผู้หญิงได้ดี

                          เหง้า  ใช้แห้งประมาณ 5-10 กรัม นำไปต้มหรือบดเป็นผงกิน หรือใช้สด โดยการตำคั้นเอาแต่น้ำกิน ใช้สำหรับภายนอก โดยการนำไปบดให้เป็นผงเป่าคอ หรือใช้ผสมทา เหง้าจะมีรสขม และเย็นจัด แต่มีพิษ ใช้เป็นยารักษาอาการต่าง ต่าง ดังนี้คือ                    

                    1.  รักษาโรคคางทูม โดยใช้เหง้าสดประมาณ 10-15 กรัม นำไปต้มกินหลังอาการวันละ  2 เวลา
                    2.  รักษาอาการท้องมาน โดยใช้เหง้าสด นำมาคั้นเอาแต่น้ำกินบ่อย ๆ  

                    3.  รักษาอาการไอ หรืออาการหอบหืด ใช้เหง้าแห้งประมาณ 6 กรัม มั่วอึ้งแห้งประมาณ 3 กรัม ขิงแห้งประมาณ 3 กรัม โส่ยชินแห้งประมาณ 2 กรัม โงวบี่จี้แห้งประมาณ 2 กรัม จี่อ้วงแห้ง 10 กรัม และลูกพุทราจีนประมาณ 4 ผลนำมาต้มรวมกันเอาแต่น้ำกิน 
                    4. รักษาอาการเจ็บคอ โดยใช้เหง้าสดประมาณ 15 กรัม
ผสมกับน้ำส้มสายชู ตำคั้นเอาช้ำชุบสำลีอมกลืนแต่น้ำช้าๆ
                    5. รักษาฝีที่เต้านมบวมมีหนองในระยะเริ่มแรก ให้ใช้เหง้าแห้ง 1 เหง้า รากดอกไม้จีนแห้งประมาณ 10 กรัม
นำมารวมกันบดให้เป็นผง แล้วผสมน้ำผึ้งกิน
                    6.รักษาฝีประคำร้อยให้ใช้เหง้าแห้งเหลี่ยงเคี้ยว แห่โกวเช่าแห้ง อย่างละเท่า ๆ กัน นำไปบดเป็นผง ผสมทำเป็นยาเม็ด กินครั้งละ 6 กรัม
หลังอาหาร
                    7. รักษาอาการผื่นคืนมีน้ำเหลืองที่ขาจากการทำนา ใช้เหง้าแห้ง ใส่น้ำแล้วต้มให้เดือดผสมเกลือแกงเล็กน้อย แล้วทาตามบริเวณที่เป็น ทาวันละ 2 เวลาเช้า-เย็น          

ถิ่นที่อยู่     พรรณไม้นี้ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ หรือขึ้นเองตามหุบเขา           

 ข้อมูลทางคลีนิค   ใช้รักษาโรคผิวหนัง เป็นผื่นคัน มีน้ำเหลืองจากการทำนาให้ใช้เหง้าแห้ง นำไปต้มให้เดือดแล้วกรอง นำไปใส่เกลือแล้วคนจนละลายหมด พอน้ำอุ่น ใช้ชะล้างบริเวณที่เป็นอาการคันก็จะหายไป ชะล้างอีกครั้งหนึ่งในวันรุ่งขึ้น ผลผื่นแดงก็จะยุบและค่อย ๆ หายไป  

                        

 ข้อมูลทางเภสัชวิทยา   
                 
1.มีฤทธิ์รักษาอาการอักเสบ tectoridin และ tectorigenin มีฤทธิ์ยับยั้งฤทธิ์ของเอนไซม์ hyaluronidase นอกจากนี้ยังรักษาอาการบวมอักเสบของหนูใหญ่ เนื่องจากเอนไซม์ hyaluronidase                 

Dsc01132

                        2.สารสกัดด้วยแอลกอฮอล์ หรือด้วยน้ำจากเหง้าของพืชมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย ของกระต่าย นอกจากนี้สารสกัดยังมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการสร้างเอสโตรเจนด้วย แต่ไม่สามารถป้องกันอาการอักเสบของหนูเล็กที่เกิดจากการฉายรังสีเอ็กซ์ ในความเข้มสูง และไม่มีฤทธิ์เสริมฤทธิ์ยานอนหลับ พวกฟีโนบาบิโทน ส่วนสารสกัดด้วยแอลกอฮอล์จากเหล้า ฉีดเข้ากระต่ายบ้าน มีผลทำให้ความดันเลือดลดลงได้                        

                      3.มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อโรค นำน้ำต้มที่ได้จากการสกัด หรือน้ำแช่สกัดจากเหง้า พบว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อกลาก (Tinea) และมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อโรค ที่ทำให้เกิดหนอง และมีเชื้อที่ทำให้คออักเสบ

             หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างสำหรับคนรักต้นไม้ทั้งหลาย พืชของไทยส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรเกือบทั้งสิ้นแต่วิธีที่จะนำมาใช้ ส่วนไหน แก้อะไร ใช้อย่างไร คนรุ่นเราหายากที่จะรอบรู้ น่าเสียดายที่ภูมิปัญญาสมุนไพรพื้นบ้านต้องหายไปที่ละนิดทีละหน่อยในที่สุดจะไม่เหลืออะไรเลย กินแต่ยาแค๊ปซูล ...........กินได้กินดี  ขอบคุณมากครับ    สวัสดีครับ

Advertisement


เรื่องน่าสนใจจากสมาชิกท่านอื่น
 

ไม่มีความเห็น
เกี่ยวกับเรื่อง จากว่านเพชรหึง...เป็นว่านหางช้าง...กล้วยไม้..ที่ใหญ่ที่สุดในโลก....
 
 


 
เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้

นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์
เจ้าของบล็อกนี้
Advertisement
Advertisement
เรื่องราวล่าสุด ของ
นายศุภวัฒน์ คุณานุวัฒน์..