ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวการศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ฟังจากมุม "ภาวิช ทองโรจน์" ภารกิจพลิกโฉมการศึกษาไทย


ข่าวการศึกษา 13 มิ.ย. 2556 เวลา 10:12 น. เปิดอ่าน : 11,752 ครั้ง
ฟังจากมุม "ภาวิช ทองโรจน์" ภารกิจพลิกโฉมการศึกษาไทย

Advertisement

ถือได้ว่าเป็นการเดินหน้าเพื่อการศึกษาของประเทศอย่างต่อเนื่อง สำหรับนโยบายเร่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาและผู้เรียนด้วยการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาของ "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่มีการขับเคลื่อนทำงานโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ อันประกอบไปด้วย คณะกรรมการกำหนดวิสัยทัศน์การปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน


จากนโยบายดังกล่าวจะส่งผลเช่นไรต่อการศึกษาไทยในวันข้างหน้า และจะช่วยแก้ปัญหาความล้มเหลวของการศึกษาไทยได้หรือไม่ "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์พิเศษ "ศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์" ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถึงการยกเครื่องหลักสูตรที่จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยในอนาคต รวมไปถึงหลักสูตรใหม่จะเป็นตัวจุดชนวนที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ จนนำไปสู่การปฏิรูปครู ระบบไอซีทีเพื่อการศึกษา หรือแม้แต่การปฏิรูปโครงสร้าง ศธ.

- ข้อดี/เสียของหลักสูตรเดิม

ผมขอเรียกว่าเป็นหลักสูตร 44/51 เพราะมีโครงสร้างหลักมาตั้งแต่ปี 2544 แต่มาแก้ไขเล็กน้อยในปี 2551 เรียกได้ว่าหลักสูตรนี้มีมา 12 ปีแล้ว จึงจำเป็นต้องปรับปรุง โดยหลักสูตรแบ่งเป็น 2 ส่วน คือหลักสูตรแกนกลางและหลักสูตรสถานศึกษา ก็เป็นข้อดีที่มีหลักสูตรท้องถิ่นด้วยเพราะทำให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อมใกล้ตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาท้องถิ่น



แต่อย่างไรก็ตาม หลักสูตร 44/51 เขียนสั้นเกินไป เพราะบอกแต่เนื้อหาและวัตถุประสงค์ ที่เหลือครูต้องใช้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนเอง โดยความสามารถของครูไทยก็ไม่ได้สูงเท่าไร เวลาที่ไปทำแผนการสอนจึงต้องพึ่งหนังสือเรียนเป็นหลัก ขณะที่การผลิตตำราของภาคเอกชนก็มีความหลากหลาย หากเจอหนังสือเรียนแย่ก็เป็นผลเสีย หลักสูตร (เดิม) จะดีหากนำไปใช้ในสถานการณ์ที่ครูมีความสามารถสูง เพราะเขาสามารถใส่ตัวตนเข้าไปได้ แต่บ้านเราไม่ใช่อย่างนั้น

- ผลพวงจากหลักสูตร 44/51

ผลที่เกิดขึ้นคือระบบการศึกษาแย่ลง โดยเฉพาะ 10 ปีหลังเห็นชัดเจนว่าแย่ลงต่อเนื่อง ทั้งจากผลการสอบ PISA ที่อันดับไม่เคยขยับขึ้น หรือการสอบโอเน็ตที่มีคะแนนเฉลี่ยลดลง เช่นเดียวกับอาจารย์มหาวิทยาลัยก็บอกว่า เด็กมีคุณภาพลดลง นอกจากนี้หลักสูตรเก่าไปตอบโจทย์เฉพาะเด็กที่มุ่งสู่มหาวิทยาลัย ซึ่งปีหนึ่งเรามีเด็กเข้าสู่ระบบการศึกษาประมาณ 8 แสนคน ในจำนวนนี้เข้ามหาวิทยาลัยประมาณ 3 แสนคน หลักสูตรนี้เตรียมความพร้อมคน 3 แสน แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ 5 แสนคนที่เหลือ เด็กที่จบ ม.6 บางส่วนก็ถูกทิ้งไว้ เพราะไม่มีทักษะชีวิตที่สามารถไปดำรงชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

- กระทบต่อภาพรวมของประเทศอย่างไร

ที่น่าสนใจคือทุก ๆ ปี IMD (International Institute of Management Development) จะจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของ 59 ประเทศ ไทยอยู่อันดับที่ 30 ซึ่งถือว่าอยู่กลาง ๆ แต่เมื่อคิดเชิงเปรียบเทียบ มาเลเซียอยู่อันดับที่ 14 หรือสิงคโปร์อันดับ 4 เขาทิ้งเราไปไกลมาก ซึ่งไทยอยู่อันดับนี้เพราะบางปัจจัยเราดีมาก เช่น การจ้างงานเป็นอันดับ 2 ของโลก หรือการค้าขายระหว่างประเทศอยู่อันดับ 8 แต่สิ่งที่ดึงเราลงมาต่ำคือการศึกษา ซึ่งของเราอยู่อันดับที่ 52 หรือด้านวิทยาศาสตร์อันดับที่ 40 และเทคโนโลยีอันดับที่ 50 เมื่อคนต่างประเทศเห็นผลนี้ก็จะมองว่าประเทศเรามีการจ้างงาน

เยอะ ขายของเก่ง แต่ไม่มีความรู้ ไม่ได้ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ดังนั้นคนก็จะมาลงทุนในเรื่องแรงงาน แต่อุตสาหกรรมที่ใช้ความรู้สูง ๆ เขาจะไม่มาที่นี่ สอดคล้องกับข้อมูลที่ว่า 67% ของแรงงานไทยเรียนจบและมีความรู้แค่ชั้นประถมศึกษา ทักษะเขาต่ำตามการศึกษาที่ได้รับ ซึ่งเราอยากให้หลักสูตรใหม่ตอบโจทย์ภาพใหญ่ของประเทศ

- หน้าตาของหลักสูตรใหม่

ก่อนทำหลักสูตร เรากำหนดผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยคิดว่าทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของคนไทยในยุคปัจจุบันมีอะไรบ้าง กำหนดมา 10 ข้อ เช่น การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และวิพากษ์, การสื่อสาร ถ่ายทอดความคิด ความรู้และความเข้าใจ, การทำงานร่วมกับผู้อื่น, ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาและประกอบการดำรงชีวิต, สามารถเผชิญปัญหาและแก้ปัญหา, การบริหารความขัดแย้ง เป็นต้น เมื่อเขียนหลักสูตรก็ต้องมีกระบวนการที่สะท้อนว่าจะนำไปสู่สิ่งเหล่านี้ เรามองด้วยว่าหลักสูตรต้องสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ 6 ประการ อย่างการเรียนการสอนแบบโครงการ, การอ่านเพื่อการเรียนรู้ หรือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะเดียวกันก็สร้างเจตคติให้ผู้เรียน เช่น มีสำนึกต่อสังคม, นับถือผู้อื่น, มีสำนึกประชาธิปไตย เป็นต้น

- การปรับกระบวนการเรียนการสอน

เรากำหนดความรู้ 6 กลุ่ม ได้แก่ ภาษาและวรรณกรรม, วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์, การดำรงชีวิตและโลกของงาน, ทักษะสื่อ และการสื่อสาร, สังคมและความเป็นมนุษย์, อาเซียน ภูมิภาค และโลก ซึ่งเป็นการปรับกระบวนการจาก8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ แต่ไม่ได้ปรับความรู้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างจัดตารางสอน ก็ได้ว่าจะปรับชั่วโมงเรียนลดลง อย่างเด็กชั้นประถมศึกษาที่ตอนนี้เรียนในห้องเรียน 1,000 ชั่วโมง จะทำให้เหลือต่ำกว่า 600 ชั่วโมง เพราะต้องการให้เด็กได้ใช้เวลาในการเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่า โดยโรงเรียนต้องหากิจกรรมที่มีแนวทาง ที่คิดไว้คือเป็นกิจกรรมที่รองรับเด็ก 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เรียนดีอยู่แล้วก็จะให้เสริมศักยภาพของตัวเองเพิ่มขึ้น อีกกลุ่มเป็นเด็กที่เรียนช้า เสนอให้โรงเรียนจัดทำคลินิกวิชาให้เด็กได้เข้าไปเรียน ซึ่งถ้าจัดดี ๆ ก็เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างครูกับนักเรียน หรือเด็กที่เรียนเก่งเข้ามาช่วยด้วยก็ได้

- จะนำร่องทดลองกับโรงเรียนเมื่อไร

เรามองว่าปีการศึกษา 2557 จะเริ่มทดลองใช้หลักสูตรที่เราปรับใหม่ เบื้องต้นจะนำไปใช้กับโรงเรียนที่มีขีดความสามารถสูงที่อยู่ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย โดยคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อม ประมาณ 2,000-5,000 แห่ง และให้มหาวิทยาลัยที่มีคณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ เป็นพี่เลี้ยงสื่อความคิดของเราออกไป ซึ่งถ้าให้มหาวิทยาลัย 1 แห่ง ดูแล 100 โรงเรียน ก็อยู่ในวิสัยที่เป็นไปได้

- การปรับหลักสูตรจะพลิกโฉมหน้าการศึกษาไทย

ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แค่อยากให้เด็กไทยฉลาด และประเทศอยู่ได้ เพราะตอนนี้สถานการณ์แย่ เรื่องการศึกษาไม่ได้เห็นผลเหมือนไฟไหม้ มันค่อย ๆ ซึมลึก เหมือนร่างกายมีโรคเรื้อรังและอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้น วันนี้มีคนสูงอายุ 9 ล้านคน อีกไม่ถึง 10 ปีข้างหน้าจะกลายเป็นกว่า 10 ล้านคน ถ้าคนอายุน้อยที่จะเข้ามาเป็นวัยทำงานมีประสิทธิภาพการทำงานไม่สูง ประเทศก็จะอ่อนแอ

 

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 11 มิ.ย. 2556


ฟังจากมุม "ภาวิช ทองโรจน์" ภารกิจพลิกโฉมการศึกษาไทยฟังจากมุมภาวิชทองโรจน์ภารกิจพลิกโฉมการศึกษาไทย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ว 8/2567 การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และการกำหนดอัตราเงินเดือนชดเชยและจำนวนเงินที่ได้ปรับตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง

ว 8/2567 การกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง และการกำหนดอัตราเงินเดือนชดเชยและจำนวนเงินที่ได้ปรับตามคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ. รับรอง

เปิดอ่าน 6,832 ☕ 1 เม.ย. 2567

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การส่งคืนอัตราพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน ที่ว่างจากการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ปี พ.ศ. 2567
การส่งคืนอัตราพนักงานราชการ ตำแหน่งครูผู้สอน ที่ว่างจากการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย กรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ปี พ.ศ. 2567
เปิดอ่าน 1,158 ☕ 15 เม.ย. 2567

OECD ห่วงการศึกษาได้รับผลกระทบจาก AI
OECD ห่วงการศึกษาได้รับผลกระทบจาก AI
เปิดอ่าน 553 ☕ 15 เม.ย. 2567

ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2416 เรื่อง การจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม)
ด่วนที่สุด ที่ ศธ 04009/ว 2416 เรื่อง การจัดสรรอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งนักการภารโรง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เพิ่มเติม)
เปิดอ่าน 8,536 ☕ 11 เม.ย. 2567

ครม.อนุมัติแล้วเงินจ้างนักการภารโรง 13,751 อัตรา ระหว่าง พ.ค.-ก.ย.67 ประเมินผลทุกสิ้นเดือนไม่ผ่านเปลี่ยนคน
ครม.อนุมัติแล้วเงินจ้างนักการภารโรง 13,751 อัตรา ระหว่าง พ.ค.-ก.ย.67 ประเมินผลทุกสิ้นเดือนไม่ผ่านเปลี่ยนคน
เปิดอ่าน 3,017 ☕ 10 เม.ย. 2567

เสมา 1 ห่วงอันตรายจากความร้อน เตือนประชาชนดูแลสุขภาพจากโรคฮีทสโตรก อาจเกิดอาการรุนแรงอันตรายถึงชีวิตได้
เสมา 1 ห่วงอันตรายจากความร้อน เตือนประชาชนดูแลสุขภาพจากโรคฮีทสโตรก อาจเกิดอาการรุนแรงอันตรายถึงชีวิตได้
เปิดอ่าน 876 ☕ 10 เม.ย. 2567

ครม.อนุมัติจัดสรรงบฯ ให้โรงเรียนจ้างนักการภารโรงทันก่อนเปิดภาคเรียน ในเดือน พ.ค.2567
ครม.อนุมัติจัดสรรงบฯ ให้โรงเรียนจ้างนักการภารโรงทันก่อนเปิดภาคเรียน ในเดือน พ.ค.2567
เปิดอ่าน 2,053 ☕ 9 เม.ย. 2567

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
ฮวงจุ้ยบ้านของคนเกิดปีต่าง ๆ
เปิดอ่าน 13,499 ครั้ง

เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"
เรื่องที่ควรรู้ ก่อนคิดจะเลี้ยง "ไซบีเรียน ฮัสกี้"
เปิดอ่าน 236,495 ครั้ง

การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ
การสร้างจิตรกรรมฝาผนังของช่างไทยในสมัยโบราณ
เปิดอ่าน 17,915 ครั้ง

ประเพณีสงกรานต์ล้านนา
ประเพณีสงกรานต์ล้านนา
เปิดอ่าน 22,870 ครั้ง

"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
"หนี้ครู" ปัญหาอมตะคู่แม่พิมพ์ของชาติ
เปิดอ่าน 11,252 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 096-7158383

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ